ขุนพันธ์ ๓ ภาพยนตร์แอ็คชั่นสไตล์ไทยของ คม ก้องเกียรติ โขมศิริ ในที่สุดก็จบไตรภาค แต่ยังไงก็อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัส ขุนพันธ์ 3 ในโรงภาพยนตร์สักครั้ง ไม่ใช่ว่าอยากสนับสนุนหนังไทยแต่อยากให้ทุกคนมีโอกาสจ่ายค่าตั๋วหนังที่สามารถให้ความบันเทิงได้เต็มที่
ขุนพันธ์ ๓ – แม้บทมั่วแหลกแต่แอ็กชันจัดเต็ม
ขุนพันธ์ ๓ ในภาพยนตร์เราจะเห็นขุนพันธรักษ์ราชเดชซึ่งเกษียณอายุราชการและไปอาศัยอยู่กับครอบครัวที่นครศรีธรรมราช แต่เมื่อร้อยตรีทัตเทพเรียกทหารระดับสูงมาช่วยอารักขานักการเมือง ก็ทำให้ขุนพันธ์ต้องหวนคืนอาคมกับเสือสองตัวคือเสือมเหศวรและเสือดำ อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามดำเนินไป ขุนพันธ์เริ่มรู้สึกว่าเครื่องรางของขลังเริ่มที่จะล้มเหลว เขาต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเพื่อกลับไปหาภรรยาและทารกแรกเกิด หนังไทยน่าดู
บทนำ
การเปิดตัวหนังอย่าง ขุนพันธ์ 3 มีความสำคัญมากในปี 2566 ในเวทีภาพยนตร์ไทย เพราะมองไปทางไหนก็เห็นความตั้งใจและความทะเยอทะยานของหนังไทยที่จะเอาชนะคำด่าและคำสบประมาท และถ้าไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะเล่าซ้ำเรื่องราวของขุนพันธ์ในภาคนี้ นี่คงเป็นบทพิสูจน์ของก้องเกียรติ โขมศิริ ที่บอกได้เลยว่าถ้าชีวิตนี้จะไม่สร้างหนังอีกต่อไปแล้ว หนังเรื่องนี้คือทีมสุดท้ายที่จะดูว่าคนทำหนังไทยยังต้องการอยู่ไหม เพื่อสร้างภาพยนตร์ให้คนไทยได้ดูกัน หนังประวัติศาสตร์
ตั้งแต่ฉากเต็มรูปแบบไปจนถึงฉากแอคชั่น ทำลายโดยไม่ต้องกลัวงบหมด เรานำเสนอสัตว์ประหลาดประเภทต่างๆ ตั้งแต่จระเข้ไปจนถึงนักผจญภัยและซอมบี้ ไปจนถึงงานมายากล CG ต่างๆ ที่แม้จะไม่เนียนเท่าหนังฮอลลีวูดแต่ก็ยังพยายามพัฒนาให้ดีขึ้นในทุกๆ ภาคส่วน รวมถึงงาน CG ในภาคหนังเรื่องนี้ด้วย และที่สำคัญ บทบาทของ น้าคม รูวันนี้ ผู้ชมต้องการอะไร? ฉันสวมชุดเดียวกับในหนังมาร์เวล สำหรับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ใช้ในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลชุดปัจจุบัน
จริงๆแล้วขุนพันธ์ภาค 3 มีอะไรน่าสนใจอีกเยอะ โดยเฉพาะการลอบสังหาร 4 อดีตรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2492 ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์โดยมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นฉากหลังของภาพยนตร์ แต่ปัญหาหลักคือมันกลายเป็นฉากหลังลอยๆ เมื่อหนังต้องสอดประสานกับเนื้อเรื่องของสงครามเวทมนต์ ตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ขุนพันธ์เลย Tiger และ Black Panther ต้องต่อสู้และต่างก็มีเรื่องราวที่สามารถสร้างภาพยนตร์ที่แตกต่างกันได้ ส่วนบรรยากาศการเมืองที่หนังพยายามสร้างมากเกินไปก็น่าเสียดาย หนังไทยน่าดู
อีกส่วนที่ผมคิดว่าขุนพันธ์แพ้ในภาคนี้คือการทำดีในภาคก่อนๆ นั่นคือ การจัดฉากให้ตัวร้ายของหนังหรือตัวร้ายของหนังได้รับอิทธิพลจากรัฐบาล อย่างไรก็ตามเบื้องหลังของตัวละครขุนพันธ์ 3 ถูกสร้างมาให้เสือดำโกรธขุนพันธ์ เบื้องหลังควาญช้าง เขาเลือกชุดคลาร์กเค้นท์ปะทะซูเปอร์แมนที่เขาสวมซึ่งดูไม่เหมือนโลกนี้ สิ่งสำคัญคือต้องหาทางลงจอดสองนอตเพื่อให้กระบวนการลงจอดไม่ดีนัก
และจุดบอดใหญ่ของบทคือวิธีที่พยายามดันตัวละครใหม่ ร้อยตรีทัตเทพ ที่พยายามจีบ เอม ภูมิพัฒน์ ถาวรศิริ พระเอกดาวรุ่งที่โด่งดังจากละครกลิ่น 2 และหนังก่อนอำลาวันไหล . สวมบทบาท เราได้แต่หวังว่ามันจะไม่จบลง หายไปเป็นดาบสีแดงด้วยอาวุธที่ไม่มีต้นกำเนิดมากนักในภาพยนตร์เรื่องที่แล้ว
ซึ่งไม่เหมือนเดิมเลยจริง ๆ ตั้งแต่เริ่มเป็นนายทหารใหม่ ๆ หนังก็ไม่ได้ปิดบังอะไรจนกระทั่งเปิดโปงว่าร้อยตรีทัตเทพจริง ๆ แล้วเป็นใคร? โดยไม่รู้ว่าใครคือ “ใคร” ภาพยนตร์ไม่ได้ให้มิติหรือเหตุและผลกับการกระทำของตัวละครนี้ หนังประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นตัวละครที่โชคไม่ดีที่สับสนเหมือนดาบแดงอาวุธคู่ใจในภาค 2 ของหนัง
สรุปสุดท้าย
ขุนพันธ์ ๓ และท้ายที่สุดจุดมุ่งหมายของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเพื่อเชิดชูวีรกรรมของขุนพันธรักษ์ราชเดช แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้ขุนแผนเดิมพันมากกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ กรรมที่เมียตั้งท้องทั้งที่เป็นคนทำ แต่ต้องบอกว่า หนังไทยน่าดู ฟิล์ม ทำอะไรไม่ได้เลย ขุนพันธ์ใช้เวลาในการสานสัมพันธ์ เห็นใจ และสนับสนุนขุนพันธ์ ตอนจบเป็นเหมือนภาพยนตร์บรรณาการที่มีข้อความสุดท้ายง่ายๆ
แต่ถ้าหันไปสบตาคนดูที่ต้องการหาอะไรน่าสนใจ ผมยังยืนยันว่านี่จะเป็นหนังที่ดึงเอาบรรยากาศของ “ดิ อเวนเจอร์ส” มาสู่โรงหนังไทยได้ เป็นแฟนของภาพยนตร์เรื่องนี้ และที่สำคัญที่สุดคือการได้เห็นนักแสดงหนุ่มสไตล์ซูเปอร์ฮีโร่เล่นมายากลต่อสู้กัน ทำให้ตั๋วหนังราคาแพงของคุณคุ้มค่า